บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

นักสะสม ๕ ประเภท

นักสะสม ๕ ประเภท
          นักสะสม ๕ ประเภท ๑) มือสมัครเล่น ๒) ตั้งใจจริง๓) เก็บไปขายไป๔) เก็บตามความเชื่อ ๕) ศึกษาตำรา เก็บอย่างรู้คุณค่า
๑) นักสะสมแบบมือสมัครเล่น
เริ่มจากการเห็นเหรียญที่ระลึก โลหะสองสี ที่ออกตามวาระต่างๆ ได้จากการทอนเงิน จึงเก็บใส่แก้วน้ำบนหัวนอนบ้าง หยอดกระปุกออมสินบ้าง จนเต็มเอามานั่งดูว่ามีกี่แบบ บางแบบก็มีหลายเหรียญ เก็บรวมๆ กันไว้ พอเจอเหรียญออกมาใหม่อีกก็เก็บอีก ทำให้อยากรู้ว่าแบบที่ครบตั้งแต่แรกออกมากี่แบบ เริ่มหาข้อมูลแล้วเก็บตามวาระนั้นๆ หาซื้ออัลบัมมาใส่ เรียงตามวาระ เก็บไปได้สักพัก กลับมาดูสีทองที่สอดไส้ในสีเงินกลับกลายเป็นสีดำคล้ำเหนียว ร้อนใจละทีนี้หาวิธีล้าง ขัด เช็ดถู ใช้วิธีแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน แช่ในน้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว มีสูตรแช่ในน้ำผสมผงชูรส ใช้น้ำยาล้างห้องน้ำล้าง ถูด้วยยาสีฟัน ทำสารพัดวิธีที่จะทำให้เหรียญกลับมาสวยดั่งเดิม ไปๆ มาๆ เหรียญกลับเป็นรอยนักกว่าเก่าอีก ท้อใจแล้ว เริ่มหาแหล่งความรู้ถามในเว็บ ซึ่งมักจะเจอคำถามพื้น ๆ พี่คะเหรียญหนูดำจะทำอย่างไรคะ ? -ไม่ทราบว่าเหรียญสิบบาทสองสีมีทั้งหมดกี่แบบครับ ? บางครั้งก็ได้คำตอบสมใจ บางครั้งก็ไม่สมใจ ไม่เอาแล้วเลิกถามดีกว่า มือสมัครเล่นจะไม่ค่อยติดตามเหรียญที่หายาก เพราะจะเก็บเท่าที่หาได้ บางครั้งมีคนให้มา หรือได้จากการทอนเงิน หรือหากมีกระแสนิยมบางช่วงที่เหรียญออกใหม่ก็จะเก็บตามๆ เขาไป พอมีคนพูดคุยถึงการสะสมเหรียญให้ได้ชื่อว่าตนก็สะสมเช่นกัน แต่จะให้ออกแรง ออกเงิน หาซื้อเป็นล่ำเป็นสันจนเป็นภาระ เขาจะไม่คิดมากและทุ่มเทถึงขนาดนั้น มีเวลาก็เก็บ ไม่มีเวลาก็ปล่อยผ่านไป ไม่มานั่งทุกข์กับการต้องตามหาเหรียญอย่างมืออาชีพที่ตั้งใจจริง แล้วไม่นานก็เลิกเก็บ
๒) นักสะสมแบบตั้งใจจริง
เริ่มจากเป็นนักเก็บเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในรัชกาลปัจจุบัน พอเก็บไปได้สักพักจะดูว่าควรเก็บอย่างไร แบ่งแยกประเภทของเหรียญออกเป็นเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก กับเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน และเหรียญที่ระลึก แบ่งแยกประเภทเนื้อนิเกิล เงิน ทองแดง ทองเหลือง ขัดเงา ไม่ขัดเงา ฯลฯ มีความตั้งใจจะเก็บให้ครบชุดตั้งแต่แรก คือเก็บตั้งแต่เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกราคาสิบบาทโลหะสองสีครบจนถึงวาระล่าสุดแล้ว จะย้อนไปเก็บ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกชนิดราคา ๑ บาท ๒ บาท ๕ บาท ๑๐ บาท และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๒๐ บาท นักสะสมประเภทนี้จะทำดัชนีของตนว่าเหรียญไหนมีกี่วาระ จำนวนผลิตเท่าไหร่แล้วตามเก็บให้ครบตามชุดนั้นๆ พอเก็บเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกครบชุดแล้วจะหันมาเก็บเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน ถึงแม้จะติดบางเหรียญที่หายากเขาเหล่านั้น จะพยายามหา จะขนขวาย แลกเปลี่ยน หรือซื้อมาด้วยราคาแพงก็ยอมเพื่อให้ครบชุด ตามที่ตนวางไว้หากครบแล้วเขาก็จะขยับขึ้นไปเก็บเหรียญที่มีราคาหน้าเหรียญสูงขึ้น ช่น ราคา ๕๐ บาท ราคา ๑๐๐ บาท และขยับขึ้นไปเก็บเหรียญเงินที่มีราคาหน้าเหรียญ ๑๕๐ บาท๒๐๐ บาท ๓๐๐ บาท ๖๐๐ เหรียญเงิน ๘๐๐ บาท และเหรียญเงินขัดเงาซึ่งมีราคาสูงขึ้นไปอีก มีนักสะสมรุ่นเก่าที่ตั้งใจเก็บ แต่จะเก็บเป็นวาระ คือเหรียญชนิดราคานั้น ๆ ออกมาวาระไหนไม่ว่าจะออกเนื้อทองแดง เนื้อนิเกิล เนื้อเงิน เนื้อเงินขัดเงา หรือเนื้อทองคำเก็บหมด แต่หากถามว่า ครบชุดไหม เขาก็จะบอกว่า “ครบ” คือครบชุดตามวาระนั้น ๆ แต่ถามว่าครบชุดตามราคาหน้าเหรียญหรือไหม จะไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้ไล่เรียงตามราคาหน้าเหรียญ ซึ่งอาจจะขาดบางชนิดราคาไปก็เป็นได้ นักสะสมบางท่านชอบเก็บเหรียญขัดเงา ซึ่งมีราคาแพงกว่าเหรียญธรรมดา และต้องพิถีพิถันในการเก็บ มืออาชีพที่เก็บเหรียญชนิดนี้ต้องมีความตั้งใจสูง และหมั่นนำเหรียญออกมาดูบ่อยๆ ลงทุนหา กล่องใส่เหรียญดี ๆหาตู้เก็บเหรียญเป็นที่ เป็นทาง หากซื้อไว้แล้วเก็บไม่ดี เหรียญนิเกิลขัดเงา หรือเหรียญเงินขัดเงาจะเป็นรอยได้ง่าย ถ้าใส่ในตลับไว้นานๆ ไม่ได้ใส่กล่อง กลับมาดูอีกที หน้าเหรียญจะมีรอยคราบดำ ๆ จากการที่อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยากับเหรียญแม้จะอยู่ในตลับ หากเก็บแล้วลืมก็มีสิทธิเหรียญดำได้ เหรียญขัดเงาจึงเก็บยาก ต้องมีความตั้งใจเก็บอย่างประณีตจริง ๆ
๓) นักสะสมแบบเก็บไปขายไป
นักสะสมหลายท่านที่เก็บไปได้สักระยะหนึ่ง จะเริ่มรู้แหล่งที่มาของเหรียญ ว่าเขาซื้อหาได้ที่ไหนในราคาถูกตามตลาดที่ขายของเก่าใหญ่ๆ ทั้งที่ในกรุงเทพและต่างจังหวัด หรือรู้จักร้านที่ขายในราคาขายส่ง หรือมีพ่อค้าที่ขายส่งให้หากสั่งของเขาจำนวนมาก
หากคิดที่จะทำการค้าเหรียญอย่างแรกเลยก็ต้องมีทุนเพื่อนำไปซื้อเหรียญแต่ละชนิดราคาที่ออกมา จำเป็นต้องศึกษาด้วยว่าวาระไหนเป็นเหรียญตัวติดหายากราคาแพง เหรียญชนิดไหนที่นักสะสมเขานิยมเล่นกัน หากไปกว้านซื้อเหรียญที่เขาไม่นิยม และมีจำนวนผลิตมาก ๆ ซื้อไว้ก็ติด เงินจมขายไม่ออก เหล่านี้เป็นเทคนิคที่ต้องหมั่นถามพ่อค้าด้วยกันเอง นี่เฉพาะเหรียญในรัชกาลปัจจุบัน หากคิดที่จะซื้อขายเหรียญนอกรัชกาลนี้แล้วยิ่งต้องมีเทคนิคมากขึ้นอีก เพราะนอกจากจะมีเงินแล้วต้องดูเป็นด้วยว่าแท้หรือไม่แท้ หากซื้อมาไม่แท้ก็เจ๊งได้เหมือนกัน แล้วประเภทที่รู้ว่าไม่แท้ยังเอาไปหลอกขายต่อในราคาสูง ถือว่าไม่ใช่พ่อค้า แต่เป็นแค่คนขี้โกงคนหนึ่งเท่านั้นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นความสามารถเฉพาะตัวที่จะเป็นทั้งพ่อค้าเหรียญและนักสะสมในขณะเดียวกัน ถามว่าผิดไหมที่นักสะสมจะเป็นพ่อค้าไปด้วยไม่ผิดหรอก เพราะเขาเหล่านั้นเมื่อมีช่องทางหาเงินที่จะนำไปซื้อเหรียญที่ตนตั้งใจจะเก็บแต่ก็ไม่มีเงินถุงเงินถัง ก็ต้องหาวิธีที่จะต่อยอดความตั้งใจของตนให้ถึงฝั่งฝันหากไม่อยากซื้อต่อจากพ่อค้า ขอแนะนำแหล่งที่สามารถซื้อเหรียญได้ในราคาต้นทุนที่สำคัญก็คือ หน่วยจ่ายแลกเหรียญของกรมธนารักษ์ ในกรุงเทพจะมีแหล่งใหญ่ๆ ในต่างจังหวัด คือ
๑.หน่วยจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ สำนักบริหารเงินตรา กรมธนารักษ์ ถนนจักรพงษ์.หรือชื่อย่อว่า บต.
๒. ศาลาเครื่องราชอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และเหรียญกษาปณ์ ในวัดพระแก้ว
๓. หน่วยจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์กระทรวงการคลัง
๔. อาคารจำหน่ายของที่ระลึก สำนักกษาปณ์ ถนนวิภาวดี-รังสิต หรือโรงกษาปณ์รังสิต
ส่วนในต่างจังหวัดก็จะมี
๑. สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทุกจังหวัด
๒. ศาลาธนารักษ์ ๑ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
๓. ศาลาธนารักษ์ ๒ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา
พูดถึงแหล่งที่จะหาเหรียญได้ในราคาถูกมีหลายที่ แต่เมื่อได้ของมาแล้ว จะทำอย่างไรที่จะปล่อยของให้ไวเพื่อจะได้ไม่เก็บไว้นานจนขาดสภาพคล่อง หลายคนหาแผงขายตามตลาด แต่นั้นต้องมีเวลาไปนั่งเฝ้าร้าน หลายท่านประกาศขายในเว็บ สร้างเว็บไซค์ของตนเอง ก็เป็นวิธีการที่ชาญฉลาด เพราะหากมีลูกค้าประจำแล้วก็สบาย บางท่านซื้อของในเว็บประมูล หรือEbay มาได้สักพักจนรู้วิธีการซื้อวิธีการขาย เมื่อนำเหรียญไปลงขายในเว็บ ต้องศึกษาวิธีการส่งของและวิธีการโอนเงินให้ดีๆ เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหากับลูกค้าเรื่องไม่ได้รับของ หรือไม่สามารถโอนเงินได้ เมื่ออยู่ตัวแล้วได้เงินมา ก็ไปซื้อเหรียญที่ตนอยากได้ ซึ่งคุ้มกับการลงทุนลงแรง หากทำได้และมีลูกค้าประจำจะเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าพ่อค้าแล้ว หลักการซื้อมาถูก ขายแพง เป็นเรื่องธรรมดาของโลกทุนนิยม ย่อมต้องการกำไรจากการลงทุน แต่ในอาชีพพ่อค้าที่ดำรงชีวิตอย่างสัมมาอาชีพแล้ว ต้องมีจรรยาบรรณในอาชีพ คือต้องไม่เอากำไรมากจนเกินงาม หรือต้องไม่ปั่นกระแสราคาของจนน่าเกลียด และที่เป็นบาป คือการกักตุนของไว้มาก ๆ พอได้โอกาสก็รีบปล่อยของเพื่อทำกำไร อย่างนี้ชีวิตมีแต่ติดลบ ต้องไปชดใช้กันหลายภพหลายชาติ ทำการค้าให้สบายใจเอากำไรแต่พอเพียง ชีวิตจะสดใสกว่าเยอะเลย
๔) นักสะสมแบบเก็บตามความเชื่อ
 
นักสะสมบางท่านอะไรที่เป็นรัชกาลที่ ๕ หรือรัชกาลที่ ๙ เก็บหมด นั่นก็เป็นเพราะเชื่อในพระบารมีของพระมหากษัตริย์ ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองพระองค์ หลายท่านเมื่อมีเหรียญ ของเสด็จพ่อ ร.๕ หรือ ร.๙ ไว้บูชาแล้วเชื่อว่าจะทำมาค้าขึ้น หรืออยู่รอดปลอดภัยในชีวิตประจำวัน บางท่านอาจเจอ ปาฏิหาริย์ เรื่องของการแคล้วคาดจากอุบัติเหตุ หรือภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง เมื่อประสพกับตนหรือครอบครัว และมีความเชื่อว่าเหรียญที่ตนแขวนนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยให้เป็นอย่างที่ตนต้องการ หรือพ้นจากสิ่งที่ตนไม่ต้องการ ทำให้เกิดความเชื่อและเถิดทูล เข้าตำราด้วยพระปรีชาและบารมีขอพระองค์ ทรงเผื่อแผ่ ยิ่งแท้ สิริมงคลจึงได้มีความศรัทรา หามาบูชาทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ใส่กรอบแขวนคอ หรือเหน็บติดไว้กับตัว ไปแห่งหนตำบลใดก็อุ่นใจทำให้วงการพระเครื่องรวมเหรียญของเสด็จพ่อ ร. ๕ และรัชกาลที่ ๙ เข้าเป็นเหรียญพระด้วย ราคาในการหาเช่าบูชาจึงใกล้เคียงกับราคาพระเครื่องไปโดยปริยาย เหรียญที่เก็บด้วยความเชื่อของรัชกาลปัจจุบันนั้น นอกจากจะเก็บบูชาเพราะอิทธิฤทธิ์
ปาฏิหาริย์แล้ว ประสพนิกรชาวไทยที่มีหัวใจเป็นคนไทยจริง ๆ ยังเก็บและบูชาด้วยความศรัทรา องค์ในหลวงที่ท่านบันดาล ความอยู่ดีกินดีให้แก่ราษฎร เก็บเพื่อบอกแก่ลูกแก่หลานว่าในหลวงท่านได้ทำอะไรให้แก่ประเทศไทยบ้างโดยสามารถศึกษาได้จากพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ปรากฏในเหรียญตามวโรกาสต่างๆ ที่ออกมา เมื่อเรามีความเชื่อว่าท่านสร้างทำแต่สิ่งดีให้แก่มวลมนุษย์ ความเชื่อนั้นก็จะสืบทอดแก่ลูกหลานของเรา เป็นตำนานกล่าวขานต่อไปมิรู้จบ
๕) นักสะสมแบบศึกษาตำรา เก็บอย่างรู้คุณค่า
นักสะสมที่จะเดินทางมาถึงประเภทนี้ได้ต้องใช้เวลาสะสมชั่วโมงบินมาหลายสิบปี ในความตั้งใจใฝ่ตำราศึกษาหาความรู้ และวิชาการดูเหรียญ รวมทั้งศึกษาประวัติของการออกเหรียญในวาระนั้นๆ เป็นอย่างดี รุ่นนี้ต้องยกให้เป็นครูหรืออาจารย์ อย่างภาษาวัยรุ่นเรียกว่า ขั้นเทพเมื่อได้รู้จักหรือได้พูดคุยด้วยทำให้เราได้ความรู้จากท่าน และแนวทางการดูเหรียญ รวมทั้งกำลังใจจากท่านเหล่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่มีอะไรก็จะบอกแบบไม่หวงความรู้ บางท่านมีอายุมากแล้วเก็บมานานจนไม่รู้จะเก็บอะไรแล้ว บางท่านมีกำลังทรัพย์มาก จะเก็บเหรียญหายากขึ้น ให้ครบตามที่มีในแต่ละชุดนั้นๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นความประสงค์ของท่านก็เพื่อ ตั้งใจทำพิพิธภัณฑ์ เหรียญกษาปณ์ ไว้ให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาเหรียญของไทย ซึ่งเป็นความตั้งใจที่ดี น่ายกย่องมาก แต่เส้นทางของนักสะสมไม่ได้รวยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป บางรายอาจจะเดินมาได้แค่ครึ่งทางแล้วหยุด จะด้วยปัญหาอะไรก็แล้วแต่ เขายังได้ชื่อว่าเป็นนักสะสม คงมีส่วนน้อยที่จะก้าวมาถึงจุดที่ตนคิดว่า “พอแล้วนั่นคือการได้ศึกษาเส้นทางของการออกเหรียญ จนถึงเวลาที่ตนไม่สามารถจะตามเก็บต่อไปไหวแล้ว ท่านก็คงจะวางมือ แขวนกล้องส่อง หาผู้สืบทอด เรื่องจะเอาออกขายยกชุดนั้นคงเป็นเรื่องที่ทำใจยากมากสำหรับคนที่รักเหรียญ แต่ก็มีที่พออิ่มในการเก็บเหรียญแล้วขายทิ้งหมด แล้วหันไปเล่นอย่างอื่นต่อไป นอกจากประเภทของนักสะสม ๕ ประเภทนี้ อาจมีบางท่านที่คิดว่าตนไม่ได้อยู่ในประเภทไหนเลยขอเวลาบอกกล่าวเล่าขานให้ฟังสักนิดซิว่า ท่านเป็นนักสะสมประเภทไหน
..........................................................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น