บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ลงทุนในสิ่งที่รัก (Passion Investment)

ลงทุนในสิ่งที่รัก (Passion Investment) 


ในโลกของการลงทุน นอกจากเราจะลงทุนเพื่อผลตอบแทนแล้ว เรายังสามารถลงทุนในสิ่งที่เรารักและชอบเป็นการส่วนตัว โดยหากมีความรู้ ความเข้าใจ ก็จะสามารถทำกำไรจากการลงทุนได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
การลงทุนในสิ่งที่รักที่ชอบ หรือที่เรียกกันว่า Passion Investment เป็นแนวโน้มที่เศรษฐี มหาเศรษฐีในโลกนี้สนใจกันมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง ทศวรรษที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเนื่องจากมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมาก และอัตราดอกเบี้ยในทศวรรษที่ผ่านมาอยู่ในระดับต่ำ สภาพคล่องล้นเหลือ อีกส่วนหนึ่ง เนื่องจากมีกลุ่มคนสนใจมากขึ้น จึงทำให้สิ่งที่ลงทุนมีความต้องการสูงขึ้น ก็ยิ่งดึงดูดให้คนมาสนใจลงทุนมากขึ้น และปัจจัยที่สามคือ มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นมาก โดยเฉพาะในเอเชีย ในละตินอเมริกา และในตะวันออกกลาง เศรษฐีใหม่เหล่านี้ภูมิใจที่จะได้ครอบครองของที่มีประวัติความเป็นมา
การลงทุนในสิ่งที่รัก แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 5 ประเภท คือ 1.งานศิลปะ 2.ลงทุนในทีมกีฬาหรือม้าแข่ง 3.ของสะสมประเภทเพชร พลอย นาฬิกา 4.ของสะสมหรูหราที่ใช้ประโยชน์ได้ รวมถึงรถยนต์ เรือ เครื่องบิน และ 5.ของสะสมอื่นๆ เช่น ของเก่า ไวน์ เหรียญ ฯลฯ โดยจะไม่กล่าวถึงการลงทุนในธุรกิจที่ชอบ เพราะถือว่าส่วนนั้นเป็นการลงทุนเพื่อผลตอบแทน
ลักษณะเด่นของการลงทุนในสิ่งที่รัก คือ มักจะเป็นการลงทุนที่แรกเริ่มอาจเป็นงานอดิเรก และกลายมาเป็นการลงทุนเมื่อมีความสนใจเพิ่มขึ้น และมีความมั่งคั่งมากขึ้น ส่วนใหญ่จะเริ่มจากมีความสนใจ มีความชอบ เริ่มสะสม และหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งนั้นๆ เพิ่มเติม และพอสะสมมากขึ้น ก็อาจจะมีการขายหรือแลกเปลี่ยนกับคนอื่น
เทคนิคในการลงทุนในสิ่งที่รัก คือ ต้องรักและสนใจจริง เพราะของที่ลงทุนโดยมากจะมีสภาพคล่องต่ำ เวลาอยากจะขาย ไม่สามารถขายได้ง่ายๆ หากผู้ลงทุนไม่รักและสนใจจริง จะรู้สึกว่า "ติด"หมายถึงขายไม่ออก ไม่อยากได้ ต้องทนอยู่กับสิ่งนั้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น หมายความว่าท่านไม่ได้มีความรักและชอบสิ่งนั้นจริงๆ
ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะลงทุนสะสมสิ่งนั้นๆ ท่านควรจะ+ทดสอบตัวเอง+ด้วยคำถามเหล่านี้ก่อน
1.
เราสนใจสิ่งนี้จริงจังหรือไม่
2.
ถ้าวันหนึ่งที่คนอื่นไม่สนใจสิ่งนี้แล้ว เราจะยังสนใจหรือไม่
3.
เรามีความสุขที่ได้ดู ได้เห็น ได้จับต้อง ได้ใช้ประโยชน์ ได้พูดถึง สิ่งเหล่านั้นหรือไม่
4.
หากมีผู้ให้ราคาดี เราพร้อมที่จะขายหรือไม่
หากคำตอบคือใช่ทุกข้อ ท่านเป็นนักลงทุนในสิ่งที่รัก แต่ถ้าคำตอบของข้อ 4 คือไม่ขาย ท่านไม่ใช่นักลงทุนแล้วค่ะ ท่านเป็นนักสะสม คือท่านพอใจที่จะเก็บเอาไว้ชื่นชม หรือเอาไว้ให้ผู้อื่นได้ร่วมชื่นชมด้วย ตรงนี้คือความแตกต่างของการเป็นนักสะสมกับนักลงทุนค่ะ
ในห้าประเภทของการลงทุนในสิ่งที่รักที่ดิฉันกล่าวไป จะมีทั้งความแตกต่างและความเหมือนกันอยู่พอสมควร
เริ่มจากความเหมือนก่อนนะคะ ดิฉันเคยเขียนไปเมื่อสามปีที่แล้ว ว่า การลงทุนในศิลปะ เป็นการลงทุนทางเลือกประเภทหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่ลงทุนมักมีสภาพคล่องต่ำ การตีมูลค่าจะขึ้นอยู่กับสภาพ เรื่องราวหรือที่มา ความสำคัญ และความหายาก หรือความพิเศษ เพราะฉะนั้น พวกทำมาจำนวนจำกัด หรือ Limited Edition จะเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า ราคาก็ดีกว่า
สำหรับความแตกต่างคือ ความกว้างของตลาด เพชร อัญมณี จะมีตลาดกว้างกว่า พวกโบราณวัตถุ ประโยชน์ใช้สอย นาฬิกา เป็นของที่มีผู้นิยมลงทุน เพราะใช้ประโยชน์ได้ ถือเป็นเครื่องประดับอย่างหนึ่ง ใช้ก็ได้ ขายก็ได้ ในขณะที่ของบางอย่างใช้โชว์หรือประดับอย่างเดียว
ถามว่าตอนนี้นิยมอะไรมากที่สุด จากข้อมูลของ World Wealth Report ที่ทำการสำรวจล่าสุดเมื่อปี 2008 พบว่า หากเปรียบเทียบมูลค่าของการลงทุนในสิ่งที่รัก พบว่ากลุ่มของสะสมหรูหราที่ใช้ประโยชน์ได้ประเภทรถยนต์ เรือ เครื่องบินเจ็ทมีส่วนสูงที่สุดคือ 27% แต่ผู้ลงทุนในกลุ่มนี้ขายทิ้งไปมากในช่วงเกิดวิกฤติปี 2007-2008 และราคาก็ตกลงไปเยอะมากด้วย
ถัดมาเป็นงานศิลปะ มี 25% และเพชร พลอย นาฬิกา มี 22% เป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า ก่อนเกิดวิกฤติ ผู้ลงทุนได้เพิ่มส่วนการลงทุนในกลุ่มเพชร พลอย และนาฬิกามากขึ้น
การลงทุนในสิ่งที่รักในบ้านเรายังไม่ค่อยแพร่หลายมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นนักสะสมมากกว่าค่ะ แต่เมื่อมีผู้ลงทุนประเภทพอร์ตโฟลิโอสนใจจัดแบ่งส่วนมาลงทุนมากขึ้น ตลาดก็จะขยายกว้างและมีการตื่นตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้การลงทุนในของที่รัก ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่งค่ะ หากเศรษฐกิจดี ผู้คนก็จะหันมานิยมมากขึ้น เช่นเศรษฐีของจีนในช่วงนี้กำลังหาซื้อของเก่าจีนจากประเทศต่างๆ มาสะสมกันใหญ่
ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ เทคนิค 3 ข้อ สำหรับผู้ที่สนใจสะสมหรือลงทุนในสิ่งที่ชอบ ดังนี้ค่ะ ประการแรกคือ ต้องศึกษาให้รู้จริง ถ้าไม่รู้จริงอาจเจ็บตัวและถูกหลอก ประการที่สอง ต้องขี้สงสัย อย่าเชื่อใครง่ายๆ และประการสุดท้ายที่เป็นหัวใจเลยก็คือ ให้สะสมของที่ดีที่สุดเท่าที่มีกำลังสะสมได้ เพราะมูลค่าจะขึ้นอยู่กับความสำคัญ ความพิเศษ ความหายาก ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว
อ่านเรื่องของสะสมสนุกๆ พอให้หายเครียดนะคะ เราทุกคนต้องช่วยกันทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าด้วยความสงบ ร่มเย็น และมีสันติสุขถาวร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น